100 กฎที่จะนำชีวิตไปสู่จุดสูงสุด

  1. Where you live is the most important decision you will make in your life - การเลือกที่อยู่อาศัยนั้นเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะมันส่งผลถึงทุกอย่างในชีวิตคุณและคนรอบตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพชีวิต โอกาส ความสำเร็จ การเลือกถิ่นที่อยู่ที่เกื้อหนุนกับเป้าหมายและวิถีชีวิตของคุณจะช่วยให้คุณเติบโตและบรรลุศักยภาพสูงสุดได้ง่ายขึ้น
  2. If you want to flourish you take care of the soil, not of the seed - ถ้าอยากให้ต้นกล้าเจริญงอกงาม จงใส่ใจดินที่ใช้ปลูก หาใช่แต่เมล็ดพันธุ์, การเติบโตและความสำเร็จในระยะยาวไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์หรือความสามารถที่ติดตัวมาแต่กำเนิด (เมล็ดพันธุ์) แต่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ทรัพยากร และโอกาสที่หล่อเลี้ยงคุณ (ดิน) การสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ทักษะ เครือข่าย หรือประสบการณ์ จะช่วยให้คุณผลิดอกออกผลได้งดงามในภายหลัง.
  3. Remember, a flower doesn't go after the bee - จำไว้เสมอว่า ดอกไม้ไม่เคยย้ายตามฝูงผึ้ง อย่าเสียเวลาเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามคนอื่น หรือโอกาสต่างๆ มากจนเกินไป จงใช้เวลาเหล่านั้นมาพัฒนาตนเองให้มีคุณค่าแทน ดังเหมือนเช่นดอกไม้ที่หอมหวลและสวยงาม ย่อมมีคุณค่าในตัวเอง และคุณค่าเหล่านั้นจะดึงดูดสิ่งดีๆ และคนที่ปราถนาเข้ามาในชีวิตคุณเอง
  4. You don't have to fight for: 1. True love 2. True friends Both come naturally - สองอย่างที่คุณไม่จำเป็นต้องดิ้นรนค้นหาคือ รักแท้กับเพื่อนแท้ เพราะทั้งสองอย่างนี้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ความสัมพันธ์ที่แท้จริงและยั่งยืนไม่ได้มาจากการบังคับหรือเรียกร้อง แต่จะค่อยๆ ก่อตัวและดำรงอยู่ได้ด้วยความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้รักแท้หรือเพื่อนแท้มา บางทีนั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังมองหาจริงๆ ก็เป็นได้.
  5. You should stop chasing butterflies... plant a garden so they come to you - เลิกเสียเวลาไปกับการไล่ตามผีเสื้อ แต่จงใช้เวลาเหล่านั้นมาดูแลสวนดอกไม้ให้ดีแทน และเมื่อพวกมันเบ่งบาน มวลผีเสื้อก็จะบินมาหาคุณเอง, หยุดวิ่งตามคนอื่นแล้วหันมาพัฒนาตนเองแทน เมื่อคุณเติบโตและมีคุณค่า ทุกสิ่งที่คุณปรารถนาจะถูกดึงดูดเข้ามาในชีวิตคุณเองโดยอัตโนมัติ.
  6. Continuously invest in yourself for personal growth and career advancement - หากปราถนาที่จะเติบโตและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อย่าหยุดพัฒนาตนเองเด็ดขาด จัดสรรเวลาและทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ และขยายขอบเขตความรู้ของคุณ ไม่ว่าจะผ่านการอ่านหนังสือ เข้าร่วมสัมมนา เรียนคอร์สออนไลน์ หรือมีพี่เลี้ยงที่ประสบความสำเร็จ การลงทุนในตัวเองจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าตลอดชีวิต ทำให้คุณมีความสามารถและความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต อย่าหยุดที่จะเรียนรู้และเติบโต เพื่อให้คุณก้าวทันในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และบรรลุเป้าหมายอันทะเยอทะยานของคุณได้.
  7. Stop taking advice from people less successful than you, unless you're listening to learn what not to do - อย่าทำตามคำแนะนำของคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เว้นเสียแต่คุณจะอยากรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ถ้าคุณอยากไปถึงจุดหมาย คุณต้องเชื่อคนที่เคยไปถึงจุดนั้นแล้ว การฟังคำชี้แนะจากคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จอาจทำให้คุณเดินหลงทางได้
  8. Try to never be the smartest person in a room พยายามอย่าให้ตัวเองเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในห้องเสมอไป การอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยคนที่ฉลาดกว่าคุณจะทำให้คุณรู้สึกท้าทายและเติบโตไปพร้อมกับพวกเขา หากคุณเป็นคนที่เก่งที่สุดในกลุ่มเสมอ นั่นแปลว่าคุณหยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองแล้ว.
  9. A sinking ship can save no one. If you want to live a life that matters, start with yourself - เรือที่กำลังจะจมไม่สามารถช่วยใครได้ หากคุณอยากใช้ชีวิตที่มีความหมาย จงเริ่มต้นที่ตัวคุณเอง ก่อนที่คุณจะออกไปช่วยเหลือหรือสร้างคุณค่าให้กับโลกใบนี้ คุณต้องช่วยเหลือและพัฒนาตัวเองให้พร้อมเสียก่อน เรือที่กำลังจมย่อมไม่สามารถเป็นที่พึ่งแก่ใครได้ จงเติมเต็มและเยียวยาตัวเองให้เข้มแข็ง เพื่อที่คุณจะได้มีพลังพอที่จะส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คนอื่นบ้าง.
  10. Stop pointing fingers and assume blame for everything happening in your life - เลิกชี้นิ้วโทษคนอื่น และรับผิดชอบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ การโทษคนอื่นหรือโชคชะตาจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อที่ไร้อำนาจ แต่การรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองจะช่วยให้คุณมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นแค่ผู้โดยสารในชีวิต แต่จงเป็นคนขับเคลื่อนมันด้วยตัวคุณเอง.
  11. Be as brutally honest as you can be - at least with yourself and try with others - จงซื่อสัตย์กับตัวเองอย่างเต็มที่ และพยายามซื่อสัตย์กับคนอื่น ความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของการเติบโตและการสร้างความไว้วางใจ การหลอกลวงตัวเองจะนำไปสู่ชีวิตที่หลงผิด จงกล้ามองความจริงตรงหน้า ถึงแม้มันจะเจ็บปวด เพื่อที่คุณจะได้แก้ไขและพัฒนาตัวเองต่อไป ส่วนความซื่อสัตย์กับคนอื่นนั้นควรทำด้วยความระมัดระวังและเห็นอกเห็นใจ.
  12. Your life is boring because you are boring. Stop waiting for other people to come in your life and fix your reality - ชีวิตคุณน่าเบื่อเพราะตัวคุณเองน่าเบื่อ เลิกรอให้คนอื่นเข้ามาในชีวิตและแก้ไขความเป็นจริงของคุณ อย่าโทษคนอื่นหรือสถานการณ์ว่าทำให้ชีวิตคุณน่าเบื่อ แต่จงถามตัวเองว่าคุณกำลังทำอะไรเพื่อทำให้ชีวิตสนุกและท้าทายขึ้นบ้าง จงรับผิดชอบต่อความรู้สึกของตัวคุณเอง แทนที่จะนั่งรอให้ใครซักคนเข้ามาทำให้ชีวิตคุณมีความหมาย จงออกไปค้นหาและสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง.
  13. You solve boredom by being curious - คุณจะแก้เบื่อได้ด้วยการเป็นคนช่างสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นเป็นคุณสมบัติสำคัญของคนที่มีชีวิตชีวา เมื่อคุณเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ชีวิตก็จะเต็มไปด้วยการค้นพบที่น่าตื่นเต้นไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเดินทาง การคุยกับคนแปลกหน้า หรือการลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ล้วนเป็นวิธีง่ายๆ ในการเติมเต็มชีวิตให้สนุกและมีสีสันมากขึ้น.
  14. If you're lacking purpose, know that the purpose is to grow - ถ้ายังหาเป้าหมายของชีวิตไม่เจอ ให้จำไว้เสมอว่าเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่คือการเติบโต การมีเป้าหมายในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ แต่บางครั้งเราอาจจะสับสนว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันแน่ จงจำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางไปในเส้นทางใด การหยั่งรากลึกและงอกงามในฐานะมนุษย์คือจุดหมายสูงสุดของชีวิต ดังนั้น จงมุ่งมั่นเรียนรู้ เติบโต และพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้ทุกย่างก้าวของคุณมีคุณค่าและมีความหมายอยู่เสมอ.
  15. Speaking of purpose, take care of yourself. Once you figure yourself out, take care of your inner circle - พูดถึงเรื่องจุดมุ่งหมาย คุณต้องดูแลตัวเองให้ดี เมื่อเข้าใจตัวเองแล้ว ก็ให้ดูแลคนใกล้ชิดต่อไป คุณจะไปช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร ถ้าคุณยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เสียก่อน? จงให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจ เติมเต็มตัวเองด้วยสิ่งดีๆ และทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ เมื่อคุณมีรากฐานที่มั่นคงแล้ว จึงค่อยขยายความเอาใจใส่ไปออกไปสู่คนรอบข้างที่คุณรัก ถ้าทุกคนดูแลตัวเองและคนใกล้ตัวได้ดี สังคมโดยรวมก็จะเข้มแข็งและเป็นสุขตามไปด้วย.
  16. Define a big goal for your life - make it explicit, it will serve as your north star กำหนดเป้าหมายสูงสุดของชีวิตให้ชัดเจน มันจะเป็นดั่งดาวนำทางคุณ เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายใหญ่ที่คุณอยากให้เป็นจริงในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความฝันส่วนตัวหรืออุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ มันจะกลายเป็นดาวเหนือที่คอยนำทางคุณในทุกย่างก้าว การตัดสินใจและการกระทำต่างๆ ของคุณจะสอดคล้องและมุ่งไปสู่จุดหมายนั้น ความชัดเจนของเป้าหมายจะเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลังที่สุด ที่จะทำให้คุณลุกขึ้นมาสู้ต่อในทุกๆ วัน.
  17. Once you figure yourself out stay in your lane and leave them be เมื่อเข้าใจตัวเองแล้ว ก็อยู่ในเลนของตัวเองและปล่อยให้คนอื่นเป็นแบบที่เขาเป็น พอคุณรู้จักตัวเองดีแล้ว ก็อย่าไปสนใจหรือตัดสินเส้นทางของคนอื่นมากเกินไป เราแต่ละคนต่างโชคดีและมีพรสวรรค์ในแบบที่ไม่เหมือนกัน จงเคารพการเดินทางของแต่ละคนและมุ่งมั่นต่อสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ การสร้างสมดุลย์ระหว่างการพัฒนาตัวเองและการให้เกียรติผู้อื่นจะทำให้ชีวิตก้าวหน้าไปได้ไกลในระยะยาว.
  18. The worst position to find yourself in is: no time +  no money สถานการณ์ที่แย่ที่สุดที่คุณจะพบ คือการไม่มีเวลาและไม่มีเงิน หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ระหว่างเวลาหรือเงิน คุณยังพออาศัยอีกสิ่งหนึ่งเพื่อไปต่อได้ แต่เมื่อคุณสูญเสียทั้งสองอย่างพร้อมกัน นั่นคือสัญญาณเตือนอันตรายที่ต้องรีบแก้ไข จงมองหาวิธีการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและบริหารเวลาอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณมีทรัพยากรพื้นฐานเพียงพอในการดำเนินชีวิตและทำตามความฝัน.
  19. BETTER > MORE > NEW. Shiny objects are all around you - ดีกว่า > มากกว่า > ใหม่กว่า วัตถุสิ่งของวิบวับมีให้เห็นมากมายรอบตัวคุณ โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่ชวนให้ซื้อหามาครอบครอง แต่จำไว้เสมอว่าคุณภาพต้องมาก่อนปริมาณ สิ่งที่ดีกว่าชนะสิ่งที่มากกว่าเสมอ และสิ่งที่คุ้นเคยแต่ยังใช้ได้ดีก็ยังคุ้มค่ากว่าของใหม่ที่ไม่จำเป็น อย่าติดกับดักกับวัฏจักรแห่งการบริโภคที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่จงเลือกสรรเฉพาะสิ่งที่ใช่และตอบโจทย์ชีวิตของคุณ.
  20. There are no shortcuts to any place worth going. Focus on doing what you do and do it consistently better - จุดหมายปลายทางที่มีคุณค่าล้วนไร้ซึ่งทางลัด มุ่งเน้นทำสิ่งที่คุณทำอยู่ให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน มันต้องอาศัยความพยายามและความอดทนอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะมองหาทางลัดหรือวิธีมหัศจรรย์ จงให้คุณค่ากับการฝึกฝนทักษะของตน การสร้างวินัยในการทำงาน และการพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นทีละน้อยอย่างสม่ำเสมอ การเดินบนเส้นทางที่ถูกต้องอย่างมุ่งมั่นจะพาคุณไปสู่จุดหมายได้ในที่สุด.
  21. As long as you live remember that the only free cheese is in the mousetrap - ตราบใดที่คุณยังมีชีวิตอยู่ จงจำไว้เสมอว่าเนยแข็งฟรีมีแต่ในกับดักหนูเท่านั้น ของฟรีหรือผลประโยชน์ที่ได้มาง่ายๆ มักมีกับดักซ่อนอยู่เสมอ อย่าหลงเชื่อข้อเสนอสุดพิเศษหรือสูตรสำเร็จในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของชีวิต สิ่งดีๆ มักต้องแลกมาด้วยความมุมานะและความเสี่ยงระดับหนึ่ง จงฝึกตั้งคำถามและคิดตรึกตรองให้ดีก่อนเสมอ บางครั้งการอดทนและก้าวเดินอยู่ในวิถีทางที่สุจริตอาจเนิบช้ากว่า แต่มันจะให้คุณเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว.
  22. Success boils down to just doing the obvious thing for uncommonly long periods of time ความสำเร็จนั้นเกิดจากการทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นระยะเวลายาวนาน คนส่วนใหญ่มักมองข้ามพลังของความสม่ำเสมอ หรือ consistency เราชอบมองหาวิธีพิเศษหรือเคล็ดลับที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ทั้งที่จริงๆ แล้วคำตอบมักจะอยู่ตรงหน้า จงจดจ่ออยู่กับการทำสิ่งที่ถูกต้องซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนร่างกาย การเก็บออม การสานสัมพันธ์ ฯลฯ อย่างสม่ำเสมอ แล้วคุณจะไปได้ไกลกว่าที่คิด.
  23. Be careful of unearned money or knowledge. There's usually a price to pay - ทุกอย่างที่ได้มานั้นมักมีค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายเสมอ พึงระวังอะไรก็ตามที่ได้มาง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินจากการพนัน มรดก หรือโชคลาภ ซึ่งมักจะไม่ยั่งยืน หรือความรู้ที่ได้มาโดยไม่ต้องลงมือศึกษาหรือประสบด้วยตัวเอง มักจะไม่หยั่งรากลึกและนำไปใช้ได้จริง จงเคารพคุณค่าของการได้มาซึ่งทรัพย์สินและปัญญาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง นั่นจะช่วยให้คุณเห็นค่าและรู้จักใช้มันอย่างเหมาะสมที่สุด.
  24. Every day do one thing that gets you closer to your big goal. ในแต่ละวัน ต้องลงมือทำอะไรก็ตามที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิตอย่างน้อยหนึ่งอย่าง การมีเป้าหมายใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เข้าใกล้ถึงเป้าหมายนั้น ๆ ในทุกๆ วัน ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำสะสมอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลมหาศาลในระยะยาว และบ่อยครั้ง การก้าวไปในเส้นทางสู่ความฝันก็ต้องอาศัยความกล้าที่จะเผชิญหน้า และฝ่าฟันความไม่รู้และความไม่แน่นอน จงก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยและเปิดใจรับมุมมองใหม่ๆ บ้าง เพื่อที่คุณจะได้เติบโตและค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง.
  25. Do not quit. Everyone who ever won at life simply didn't give up - อย่ายอมแพ้ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนนั้นมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือไม่ยอมแพ้ ดังนั้นความลับข้อใหญ่ที่สุดของความสำเร็จก็คือ การไม่ยอมแพ้นั่นเอง ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ก็ต้องลุกขึ้นมาใหม่ให้ได้ ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้ สิ่งที่เรียนรู้จากความล้มเหลวนั้นเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่มีค่าต่อการเติบโต จงมองหาแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย พวกเขาไม่ได้ชนะเพราะไม่เคยพลาด แต่เพราะไม่ยอมถอดใจต่างหาก เมื่อคุณเชื่อมั่นและสู้ต่อไป คุณก็มีโอกาสที่จะชนะเสมอ แต่เมื่อคุณหยุดพยายาม คุณจึงจะแพ้อย่างแท้จริง.
  26. You must work in the dark for your light to shine - คุณต้องทำงานอยู่ในความมืด เพื่อให้แสงของคุณได้ส่องประกาย ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักเกิดขึ้นเบื้องหลังความพยายามมากมายที่ไม่มีใครเห็น ก่อนที่ดาราจะได้รับการยอมรับบนเวที เขาต้องฝึกฝนอยู่หลังเวทีนับพันชั่วโมง ก่อนที่นักกีฬาจะได้รับเหรียญทอง เขาต้องเสียเหงื่อในโรงยิมเป็นเวลานานหลายปี จงอดทนทำในสิ่งที่ใช่ แม้จะดูเหมือนไร้ค่าหรือไม่มีใครสนใจ เพราะวันหนึ่งความมุ่งมั่นของคุณจะส่องประกายออกมาให้โลกได้เห็น. แสงสว่างที่สดใสและมีคุณค่าที่สุดนั้นต้องเกิดท่ามกลางความมืดมิด ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ล้วนเกิดขึ้นจากความพยายามอย่างเป็นที่สุด
  27. Measure in decades not days. You will be paid based on your ability to see into the future วัดผลในกรอบเวลาระดับทศวรรษ ไม่ใช่ในหนึ่งวัน ผลตอบแทนที่คุณจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการมองเห็นอนาคตที่ไกลออกไป อย่าด่วนสรุปอะไรจากเหตุการณ์ในวันเดียว แต่จงมองย้อนกลับไปในช่วงสิบปีที่ผ่านมา คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันมากมาย คนที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกลและวางแผนเพื่ออนาคตเสมอ จะเป็นคนที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดในที่สุด เพราะพวกเขาเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าใคร.
  28. If life is a simulation, self-confidence is a cheat code. Believe in yourself and others will do as well - ถ้าชีวิตคือเกม ความมั่นใจในตัวเองคือคีย์ลัด ขอเพียงเราเชื่อมั่นในตนเอง คนอื่นก็จะเชื่อมั่นในตัวเรา คนที่มั่นใจในตัวเองมักจะดึงดูดความสนใจและโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต ความเชื่อมั่นเป็นพลังงานที่คนรอบข้างสัมผัสได้ และอยากที่จะเข้ามาอยู่ใกล้ แต่ความมั่นใจที่แท้จริงมาจากข้างใน ไม่ใช่การแกล้งทำเป็นเก่งหรือดีกว่าใคร แต่เป็นการรู้จักตัวเอง ยอมรับในสิ่งที่เป็น และเชื่อมั่นว่าเราจะรับมือกับทุกอย่างได้ เมื่อคุณมั่นคงอยู่ในตัวเอง ก็จะไม่หวั่นไหวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอก และคนอื่นก็จะอยากเชื่อในตัวคุณด้วยเช่นกัน.
  29. Never assume the answer is No before you ask. Let them be the ones to tell you NO. - อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะปฏิเสธ ถ้าคุณยังไม่เคยถามเขา บ่อยครั้งที่เราไม่ได้เอ่ยปากถามเพียงเพราะคิดไปเองก่อนแล้วว่าต้องโดนปฏิเสธ ทั้งที่ความจริงแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยจนกว่าจะถาม บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ อาจจะเป็นไปได้ง่ายๆ เพียงแค่เราเอ่ยปากเท่านั้น จงกล้าขอในสิ่งที่คุณต้องการ กล้าเสนอไอเดียบ้าบิ่น กล้าเข้าหาใครสักคนที่คุณชื่นชม อย่าตัดโอกาสของตัวเองไปก่อน ถ้าเขาปฏิเสธ ค่อยรับมันมา แต่ถ้าเขาตอบตกลง คุณก็จะได้สิ่งที่วิเศษไปครอบครองชั่วชีวิต.
  30. Stop acting richer than you are! Stop trying to impress people. Impress yourself! เลิกเสแสร้งอวยรวยกว่าที่เป็นอยู่! เลิกพยายามทำให้คนอื่นประทับใจ จงประทับใจตัวเองก่อน! การใช้ชีวิตเกินตัวเพื่อให้ดูดีในสายตาคนอื่นเป็นวิถีทางสู่ความหายนะ เพราะไม่ว่าคุณจะมีมากแค่ไหน ก็จะมีคนที่ดูเหมือนจะมีมากกว่าคุณเสมอ จงใช้จ่ายตามความจำเป็นและเป้าหมายในชีวิตของคุณเอง ไม่ใช่ตามความคาดหวังของสังคม เงินที่ประหยัดได้จากการไม่สนใจสายตาคนอื่นนั้นมีค่ามหาศาลในระยะยาว แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือจงทำให้ดีที่สุดและภูมิใจในตัวเอง เมื่อคุณรู้สึกเต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน คุณจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคำชื่นชมจากข้างนอกอีกต่อไป.
  31. Let them hate. Nobody throws stones at a tree that doesn't have ripe fruit in it ปล่อยให้พวกเขาเกลียดคุณไปเถอะ ไม่มีใครขว้างก้อนหินใส่ต้นไม้ที่ไม่มีผลสุกอยู่บนนั้น ยิ่งคุณประสบความสำเร็จและโดดเด่นมากเท่าไหร่ คนที่อิจฉาและไม่ชอบหน้าคุณก็มักจะมากขึ้นเท่านั้น อย่ากลัวที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือเกลียดชัง มันเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมบางอย่าง จนคนอื่นอดรนทนไม่ได้ จงมองข้ามเสียงด่าทอเหล่านั้นและมุ่งมั่นต่อสิ่งที่คุณเชื่อ ต้นไม้ที่ไม่มีผลไม่มีใครสนใจขว้างอะไรใส่หรอก ดังนั้นจงภูมิใจที่มีคนมากมายให้ความสำคัญกับคุณ มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าคุณกำลังทำอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่.
  32. Stop expecting them to see what you see! Stop expecting them to act the way you would act! Stop expecting YOU from them! หยุดคาดหวังให้พวกเขาเห็นในสิ่งที่คุณเห็น! หยุดคาดหวังให้พวกเขาทำแบบที่คุณจะทำ! หยุดคาดหวังให้คนอื่นเป็นตัวคุณ! ผู้คนมีภูมิหลัง ค่านิยม ทักษะ และบุคลิกที่แตกต่างกัน เราไม่ควรคาดหวังให้ทุกคนคิดหรือทำแบบเดียวกับเรา แต่ควรพยายามเข้าใจมุมมองที่หลากหลายของพวกเขามากกว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปหรือตัดสินคนอื่นจากมาตรฐานของคุณเอง จงฝึกเปิดใจยอมรับความแตกต่าง และมองหาคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในตัวคนแต่ละคน.
  33. They won't be able to see the world the way you see it พวกเขาจะมองไม่เห็นโลกในแบบที่คุณมอง ในท้ายที่สุด ไม่มีใครที่จะรู้สึกและมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้เหมือนกับคุณทุกประการ เพราะมุมมองของเราถูกกำหนดจากประสบการณ์ ความคิด และค่านิยมที่ไม่ซ้ำกัน สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นสรวงสวรรค์ อาจเป็นขุมนรกของอีกคน จงเข้าใจและยอมรับว่าบางครั้งคนอื่นอาจจะเข้าไม่ถึงวิธีคิดของคุณ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าวิธีคิดของคุณผิดหรือไม่ดีพอ จงซื่อสัตย์และจริงใจกับความเป็นตัวคุณเอง ในขณะที่ก็เปิดกว้างพอที่จะรับฟังความคิดเห็นจากคนรอบข้างบ้าง.
  34. If your dog starts barking at you, someone else is feeding it! This isn't really about dogs ถ้าหมาของคุณเริ่มเห่าใส่คุณ แปลว่าคนอื่นกำลังให้อาหารมัน! (เปรียบเปรยไม่ได้พูดถึงสุนัขจริงๆ) เปรียบเหมือนคนใกล้ชิดของคุณ เช่น คนรัก เพื่อน หรือลูกน้อง ที่เคยสนิทสนมกับคุณดี แต่วันหนึ่งเริ่มเปลี่ยนไปและหันมาต่อต้านคุณ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามีอิทธิพลจากภายนอกเข้ามาแทรกแซง ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่ง พ่อแม่ฝ่ายตรงข้าม หรือบุคคลอื่นที่ไม่หวังดี จงสังเกตให้ดีและคุยกันให้เข้าใจ ก่อนที่ความสัมพันธ์จะแตกร้าวไปมากกว่านี้ และถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดใจ บางครั้งคุณก็ต้องตัดใจปล่อยเขาไป เพื่อที่คุณจะได้เดินหน้าต่อไปในเส้นทางของตัวเองอย่างสงบสุข.
  35. Others will only see your decision.. not the choices you had! คนอื่นจะเห็นแค่การตัดสินใจของคุณ ไม่ใช่ตัวเลือกที่คุณมี! เวลาตัดสินใจอะไรสำคัญๆ เรามักจะรู้ดีถึงเหตุผลและข้อจำกัดมากมายที่อยู่เบื้องหลัง แต่คนอื่นมักจะเห็นแค่ผลของการตัดสินใจนั้น และตัดสินเราจากสิ่งที่ปรากฏ อย่าคาดหวังว่าทุกคนจะเข้าใจที่มาที่ไปของทุกการกระทำของคุณ บางครั้งคุณอาจถูกมองว่าเห็นแก่ตัว ทั้งที่จริงๆ แล้วตัวเลือกอื่นๆ ของคุณเลวร้ายยิ่งกว่า จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่าถูกต้องและสุจริตใจที่สุด โดยไม่ต้องกังวลกับคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่.
  36. Stop chasing people. Making your dream come is the ultimate release เลิกวิ่งตามคนอื่นเสียที การทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงต่างหากถึงจะเป็นอิสรภาพที่แท้จริง แรงปารถนาทางเพศตลอดจนถึงการหาคู่ครองนั้นเป็นสิ่งคนหนุ่มสาวขาดไม่ได้ แต่บางครั้งเราก็ทุ่มเททรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปกับมันจนมากเกินไป จนละเลยต่อเป้าหมายที่สำคัญกว่าในชีวิต จงจำไว้เสมอว่าไม่มีอะไรจะให้ความสุขที่ยั่งยืนและยาวนานได้เท่ากับการได้ทำในสิ่งที่คุณรักและภูมิใจ ความฝันคือคู่ชีวิตที่แท้จริงของคุณ อย่าทิ้งมันไปเพื่อวิ่งตามใครสักคนที่อาจจะมาวันนี้และจากไปวันหน้า จงทุ่มเทให้กับความฝันของตัวเองเหมือนที่คุณทุ่มเทให้กับคนรัก เมื่อถึงคราวอกหัก มันจะเยียวยาและค้ำจุนคุณได้ดีกว่าใครๆ.
  37. Stop buying video games and weed, instead hop on a plane. Chase experiences versus escaping from reality เลิกเสียเงินกับสิ่งมอมเมา เก็บเงินนั้นไว้เป็นต้นทุนสำหรับออกเดินทางหาประสบการณ์แทน มันง่ายที่จะหลีกหนีความเป็นจริง แต่นั่นไม่ช่วยให้คุณเติบโตหรือมีความสุขในระยะยาว แทนที่จะอยู่แต่ในโลกเสมือน จงออกไปสัมผัสโลกความเป็นจริงและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การเข้าคอร์สอบรม การทดลองงานอดิเรก หรือการพบปะผู้คน ประสบการณ์ชีวิตจะสอนคุณมากกว่าตำราหรือจอภาพใดๆ มันจะเปิดโลกทัศน์ของคุณ เสริมสร้างทักษะและมิตรภาพ และมอบความทรงจำดีๆ ให้ระลึกถึง จงใช้เงินและเวลาเพื่อสั่งสมความทรงจำ ไม่ใช่ลบเลือนมัน.
  38. The only real test of intelligence is if you get what you want out of life การทดสอบสติปัญญาที่แท้จริงอย่างเดียวคือการได้ในสิ่งที่คุณต้องการจากชีวิต คะแนนไอคิวหรือเกรดเฉลี่ยไม่ได้บ่งบอกถึงความฉลาดหรือความสามารถที่แท้จริงของใคร สิ่งที่แสดงถึงสติปัญญาอย่างแท้จริงคือการบรรลุเป้าหมายในชีวิตที่คุณวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จทางการงาน ความสัมพันธ์ที่ยืนยาว การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี หรือการค้นพบความหมายของชีวิต คนฉลาดคือคนที่สามารถออกแบบวิถีชีวิตในแบบของตัวเอง โดยใช้ศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่และข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ ไม่ใช่คนที่เก่งแต่ในตำราหรือสนองความคาดหวังของคนอื่น จงเชื่อมั่นในสติปัญญาของตัวเองและกำหนดเป้าหมายในแบบฉบับของคุณ นั่นแหละคือสัญญาณของคนที่ฉลาดอย่างแท้จริง.
  39. Once the work is done, the lesson learned, trust that the money will follow เมื่อทำในสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จ เรียนรู้ในสิ่งที่ต้องรู้ให้ลึกซึ้ง เชื่อเถอะว่าเงินทองย่อมตามมา อย่ามัวแต่กังวลกับรายได้หรือผลกำไรจนลืมเน้นไปที่กระบวนการและการเรียนรู้ เมื่อคุณทุ่มเทกับการทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เงินทองและความสำเร็จย่อมตามมาเป็นผลพลอยได้ในที่สุด เส้นทางสู่ความมั่งคั่งอาจดูวกวนและไม่แน่นอนไปบ้าง แต่จงเชื่อมั่นในพรสวรรค์และความพยายามของคุณ รางวัลที่ยิ่งใหญ่จะเป็นของผู้ที่มีอดทนอย่างเสมอต้นเสมอปลายเท่านั้น.
  40. Learn to use leverage. Those who use the tools at their disposal outperform the rest รู้จักเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องทุ่นแรง คนที่รู้จักใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ ย่อมทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนอื่น ในโลกยุคใหม่ที่ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกัน การประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้ประโยชน์จากคนและสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นทีม การจ้างบริการภายนอก การใช้เทคโนโลยี การขอความช่วยเหลือจากเครือข่าย หรือการใช้เงินทุนจากภายนอก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการใช้ประโยชน์จากคนอื่นเพื่อส่งเสริมเป้าหมายของเรา คนที่ทำได้ดีที่สุดมักจะไม่ใช่คนที่ฉลาดหรือขยันที่สุด แต่เป็นคนที่รู้จักดึงศักยภาพจากองค์ประกอบอื่นๆ มาใช้ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด.
  41. Rise up early. The world is lazy and unmotivated. It's easy to compete with them if you're up before them ตื่นแต่เช้า โลกนี้ขี้เกียจและไร้แรงจูงใจ คุณจึงแข่งขันกับคนพวกนี้ได้ไม่ยาก การตื่นนอนแต่เช้าเพื่อเริ่มทำงานเป็นวินัยที่ทรงพลังและให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า เพราะคุณจะมีเวลาและพลังงานเต็มเปี่ยมในการทำสิ่งที่สำคัญที่สุดไปแล้วก่อนที่คนอื่นจะตื่น ไม่เพียงเท่านั้นมันยังช่วยให้คุณมีความได้เปรียบในด้านการแข่งขันอีกด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ค่อนข้างขี้เกียจและจะตื่นสายหรือไม่ก็ตื่นแต่ก็ใช้เวลาเช้าไปกับกิจกรรมที่ไร้ประสิทธิผล แค่การตื่นเช้าและเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง คุณก็เหนือกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ไปแล้ว.
  42. You don't win by being better, you win by doing the things others don't consider valuable ชัยชนะไม่ได้เกิดจากการทำได้ดีกว่า แต่เกิดจากการทำในสิ่งที่คนอื่นไม่อยากทำ หากคุณทำอะไรเหมือนกับที่คนอื่นทำ คุณก็แค่กลายเป็นเบอร์สองไปเรื่อยๆ เท่านั้น หัวใจของการเป็นผู้นำอยู่ที่การมองเห็นโอกาสในจุดที่คนอื่นมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจความต้องการที่ซ่อนเร้นของลูกค้า การปรับปรุงขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ถูกละเลย หรือการพัฒนาทักษะด้านที่ใครๆ ก็มองไม่เห็นความสำคัญ สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันแล้วมันจะสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ จงคิดนอกกรอบและจับจุดที่คนอื่นมองข้าม นั่นคือสูตรสำเร็จที่จะนำคุณขึ้นแท่นเป็นผู้นำ.
  43. It's never too late to start but those who start earlier usually get further along the way than everyone else สำหรับการเริ่มต้นนั้นไม่มีคำว่าสายเกินไป แต่ใครก็ตามที่เริ่มก่อนก็มักจะไปได้ไกลกว่าคนอื่นเสมอ หลายคนมักอ้างว่าตัวเองแก่เกินไปที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ทั้งที่ในความเป็นจริง อายุไม่ใช่อุปสรรคของความสำเร็จเลย ตราบใดที่คุณยังหายใจอยู่ คุณก็มีโอกาสเริ่มต้นใหม่และไล่ตามความฝันได้เสมอ อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณเริ่มต้นเร็วเท่าไร คุณก็จะยิ่งมีเวลาสั่งสมทักษะและประสบการณ์ได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุณก้าวหน้าได้ไกลและรวดเร็วกว่าคนที่เริ่มต้นช้ากว่า ดังนั้น อย่ารอช้า จงเริ่มต้นวันนี้ แม้จะเป็นแค่จุดเล็กๆ ก็ตาม เพราะมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่.
  44. Remember that Great is just good repeated over and over again จงจำไว้เสมอว่า คำว่ายอดเยี่ยมหรือดีเยี่ยมนั้นเกิดการทำดีซ้ำๆ ความยอดเยี่ยมไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำสิ่งที่พิเศษเพียงครั้งเดียว แต่เกิดจากการทำสิ่งดีๆ สะสมไว้อย่างสม่ำเสมอต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ศิลปิน หรือนักธุรกิจ ผู้ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทุกคนนั้นล้วนต้องอาศัยเวลาและความมีวินัยในการฝึกฝนทักษะนั้น ๆ จนชำนาญ ถึงจะสร้างผลงานที่อยู่ในระดับชั้นยอดเยี่ยมได้ และเมื่อสั่งสมผลงานที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปถึงจะเรียกว่า ประสบความสำเร็จ จงอย่าหวังลัดขั้นตอนหรืออยากได้อะไรง่ายๆ แต่จงมุ่งมั่นทำสิ่งเล็กๆ ให้ดีที่สุดทุกวัน รวมกันแล้วมันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างคาดไม่ถึง.
  45. In life you have to choose one of two pains: Pain of discipline or Pain of regret ในชีวิตของคนเรานั้น มีความเจ็บปวดอยู่สองอย่าง หนึ่งคือความเจ็บปวดอันเกิดจากความเคร่งครัดในวินัย สองคือความเจ็บปวดอันเกิดจากความเสียใจ มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะทนเจ็บกับสิ่งใด จะเป็นความเจ็บปวดจากความมีวินัยไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย, ทำงานหนัก หรือเสียสละความสุขระยะสั้น เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในระยะยาว หรือจะเป็นความเจ็บปวดจากความเสียใจและความผิดหวังอันเกิดจากการปล่อยปละละเลย ผัดวันประกันพรุ่ง และเอ้อระเหยลอยชาย แน่นอนว่าไม่มีใครอยากทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด แต่ถ้าจำเป็นต้องเลือก ความเจ็บปวดจากวินัยดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมันจะผลักดันเราไปข้างหน้า เติบโตแข็งแกร่งขึ้น แทนที่จะดึงเรากลับหลังแบบความเจ็บปวดจากความเสียใจ.
  46. You feel bad because deep down you know you could be doing better. The gap between reality and expectations creates stress คุณรู้สึกแย่เพราะลึกๆ แล้วคุณรู้ว่าคุณสามารถทำได้ดีกว่านี้ ช่องว่างระหว่างความเป็นจริงและความคาดหวังก่อให้เกิดความเครียด หลายครั้งที่ความทุกข์ใจของเรา ไม่ได้เกิดจากตัวปัญหาภายนอก แต่มาจากความขัดแย้งภายในจิตใจของเราเอง เราทุกคนล้วนมีศักยภาพที่จะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่เมื่อมีช่องว่างระหว่างสิ่งที่เรารู้ว่าควรทำ กับสิ่งที่เรากำลังทำจริงๆ มันจึงก่อให้เกิดความเครียดและความรู้สึกผิด จงใช้ความรู้สึกนี้เป็นสัญญาณเตือนและเป็นแรงผลักดันเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับศักยภาพที่แท้จริง เมื่อคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณรู้ว่าดีที่สุดสำหรับตัวเอง ช่องว่างนั้นก็จะค่อยๆ ลดลง และความเครียดก็จะบรรเทาลงตามไปด้วย.
  47. Direction is more important than speed! The same way hard work won't get you very far if the idea is poor ทิศทางสำคัญกว่าความเร็ว! ในทำนองเดียวกัน การทำงานหนักนั้นอาจจะไม่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ ถ้าไอเดียนั้นมันห่วย การเดินทางไปสู่เป้าหมาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยทิศทางที่ถูกต้องด้วย ไม่ว่าคุณจะวิ่งเร็วแค่ไหน ถ้าวิ่งไปผิดทิศก็ไม่มีวันถึงจุดหมาย ในทำนองเดียวกัน การทุ่มเทและทำงานหนักเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าเราลงแรงผิดที่ผิดทาง ก็จะกลายเป็นความสูญเปล่า จงหมั่นทบทวนว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้น ตอบโจทย์เป้าหมายสูงสุดของคุณหรือไม่ อย่าฝืนทำในสิ่งที่ใจคุณไม่เห็นด้วย เพียงแค่เพราะคนอื่นบอกว่ามันสำคัญ จงกล้าที่จะปรับเปลี่ยนเข็มทิศชีวิตให้ชี้ไปในทิศทางที่ถูกต้องเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่าใครๆ .
  48. It doesn't get easier, you just get better! But the trick is to do it every day & once you see those results coming in, you're hooked! มันไม่ได้ง่ายขึ้น แต่คุณเก่งขึ้น! เคล็ดลับคือต้องทำมันทุกวัน และเมื่อเห็นผลลัพธ์คุณจะติดใจ หนทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันเต็มไปด้วยหนามและกรวดที่ทดสอบเราอยู่เสมอ สิ่งที่ยากในวันนี้ มันไม่ได้จะง่ายขึ้นในวันพรุ่งนี้ ความยากง่ายมันไม่เปลี่ยน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวเราเอง เป็นตัวเราที่แข็งแกร่งและเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรากล้าเผชิญหน้ากับความท้าทายนั้นอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งเวลาผ่านไป ร่างกายและจิตใจของเราก็จะค่อยๆ ปรับตัว จนสิ่งที่เคยทำได้อย่างลำบากกลับทำได้อย่างง่ายดาย และเมื่อเริ่มรู้สึกถึงพัฒนาการของตัวเอง เราก็จะยิ่งมีกำลังใจที่จะทำมันต่อไปไม่รู้จบ.
  49. Good enough now is better than perfect never ดีพอแล้วในตอนนี้ ย่อมดีกว่าไม่มีวันที่จะสมบูรณ์แบบ หลายคนมัวแต่คิดฝันถึงสิ่งที่สมบูรณ์แบบเกินไป จนไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะกลัวว่ามันจะดีไม่พอ ทั้งที่จริงแล้ว แค่มีอะไรที่ดีพอใช้ในเวลานี้ ก็ถือว่ามีค่ามากกว่าการรอคอยอะไรที่สมบูรณ์แบบแต่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริงแล้ว แน่นอนว่าเราต้องมีมาตรฐานในระดับหนึ่ง แต่อย่าให้มาตรฐานที่สูงเกินไปนั้นมาขวางกั้นการลงมือของเรา จงปล่อยวางความไม่พอใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แล้วกล้าส่งมอบผลงานที่ดีพอตามกำหนด เพราะนั่นจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ที่จะนำไปสู่การปรับปรุงในครั้งต่อๆ ไป จนกลายเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างที่ใจคุณปรารถนา.
  50. You might not realize it, but Between 1% and 2% the difference is 100% คุณอาจไม่รู้ตัว แต่ความแตกต่างระหว่าง 1% กับ 2% คือ 100% ในโลกของการแข่งขัน ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเพียง 1-2% อาจดูเหมือนไม่มาก แต่แท้จริงแล้วมันอาจหมายถึงความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการชนะและการแพ้ เพียงแค่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มขึ้น
  51. Once you get burnt, don't put your hand back in the fire. The lesson you struggle with will repeat itself until you learn from it! เมื่อคุณถูกไฟลวกแล้ว อย่าเอามือกลับเข้าไปในกองไฟอีก บทเรียนที่คุณไม่ยอมเรียนรู้จดจำนั้นจะวนเวียนเกิดขึ้นซ้ำ ๆ จนกว่าคุณจะเรียนรู้และจดจำมันได้ขึ้นใจ เมื่อคุณเจ็บปวดจากความผิดพลาดครั้งหนึ่งแล้ว อย่ากลับไปทำผิดแบบเดิมซ้ำอีก จงเรียนรู้จากประสบการณ์เลวร้ายและปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่เช่นนั้นชีวิตจะส่งบทเรียนเดิมมาให้คุณเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเข้าใจและเปลี่ยนแปลง.
  52. The price for making everyone happy is making yourself miserable ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำให้ทุกคนมีความสุขก็คือการทำให้ตัวคุณเองทุกข์ทรมาน การพยายามเอาใจทุกคนและตอบสนองความต้องการของคนรอบข้างไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรนั้น มักจะนำไปสู่ความทุกข์และความไม่พอใจในตัวเองเสมอ จงรู้จักวางขอบเขตและรักษาความสมดุลระหว่างการใส่ใจผู้อื่นและการดูแลความสุขของตนเอง.
  53. People want you to do well in life, but not better than them ใคร ๆ ก็อยากให้คุณมีชีวิตที่ดี แต่ไม่มีใครอยากให้คุณได้ดีไปกว่าเขาเหล่านั้น คนส่วนใหญ่พร้อมจะสนับสนุนคุณและอยากเห็นคุณมีชีวิตที่ดี แต่เมื่อใหร่ก็ตามที่คุณเริ่มโดดเด่นและประสบความสำเร็จมากกว่าพวกเขา คนเหล่านั้นจะเริ่มอิจฉาและต่อต้านคุณ อย่าคาดหวังการสนับสนุนที่แท้จริงจากทุกคน โดยเฉพาะเมื่อคุณเริ่มทำได้ดีกว่า.
  54. Remember that if they talk to you about someone else behind their backs they will do the same about you with them จำไว้ว่าเสมอว่า ถ้าใครนินทาคนอื่นให้คุณฟัง พวกเขาก็จะนินทาคุณให้กับคนอื่นฟังลับหลังเช่นกัน อย่าไว้ใจคนที่ชอบซุบซิบและวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นลับหลังมากเกินไป เพราะวันหนึ่งคุณอาจกลายเป็นเป้าหมายในการนินทาของพวกเขาบ้าง คนประเภทนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจและความน่าเชื่อถือที่น้อยนิด.
  55. Judge people based on what they do, not on what they say จงตัดสินผู้คนจากการกระทำของพวกเขา ไม่ใช่จากคำพูด คำพูดเป็นเพียงลมปาก แต่การกระทำแสดงถึงตัวตนและความตั้งใจที่แท้จริง จงสังเกตว่าผู้คนลงมือทำอะไร ไม่ใช่ฟังแต่สิ่งที่พวกเขาพูด การกระทำที่สอดคล้องกับคำพูดอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น.
  56. An insincere apology is a second insult คำขอโทษที่ไม่จริงใจเป็นการดูถูกซ้ำสอง หากคุณทำผิดต่อใคร จงขอโทษด้วยใจจริงและพร้อมปรับปรุงแก้ไขตัวเอง คำขอโทษที่ขอไปอย่างขอไปทีเพื่อให้จบๆ เรื่อง หรือไม่ได้แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริง จะยิ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกเหยียดหยามมากขึ้นไปอีก.
  57. The smartest people realize life is a strategy game คนฉลาดคือคนที่ตระหนักว่าชีวิตนั้นเป็นเกมกลยุทธ์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จมองชีวิตเป็นเกมกลยุทธ์ที่ต้องวางแผนล่วงหน้า คิดไตร่ตรองทุกตัวเลือก และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด พวกเขาพยายามคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่แข่งและปรับกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ได้เปรียบและบรรลุเป้าหมายในระยะยาว.
  58. Reality is negotiable ความเป็นจริงนั้นเป็นสิ่งที่สามารถเจรจาต่อรองได้ มันไม่มีความเป็นจริงที่สมบูรณ์แบบหรือถูกกำหนดไว้ตายตัว คุณมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถาม โต้แย้ง เสนอมุมมองใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนความเป็นจริงที่คุณต้องเผชิญ อย่ายอมจำนนต่อโชคชะตาหรือคำพูดของใคร จงต่อรองเพื่อสร้างความจริงของคุณเอง.
  59. Truth is nobody gets rich being employed. You get rich by owning something that dramatically increases in value in a short period of time ความจริงคือไม่มีใครรวยจากการเป็นลูกจ้าง คุณรวยจากการเป็นเจ้าของสิ่งที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเวลาอันสั้น หนทางสู่ความมั่งคั่งคือการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างก้าวกระโดด ไม่ใช่การขายแรงงานแลกค่าจ้างแบบลูกจ้างทั่วไป จงมองหาโอกาสในการลงทุนหรือสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะดึงดูดมูลค่ามหาศาลในเวลาอันสั้น.
  60. Some of you aren't broke.. you're just pre-rich! บางคนยังไม่รวย...เพราะกำลังอยู่ในช่วงก่อนรวยต่างหาก! อย่าท้อแท้หากตอนนี้คุณยังไม่มีเงินทองมากมาย บางทีคุณอาจแค่กำลังอยู่ในช่วงบ่มเพาะความรวยในอนาคตก็เป็นได้ จงมองหาโอกาสในวิกฤต ใช้เวลาสั่งสมทุน ประสบการณ์ และความรู้ เพราะสักวันสิ่งเหล่านี้จะผลักดันคุณไปสู่ความมั่งคั่งอย่างแน่นอน.
  61. You get rich by taking large amounts of risk with low amounts of money คุณจะรวยได้ด้วยการแบกรับความเสี่ยงครั้งใหญ่ด้วยเงินจำนวนน้อย หนทางสู่ความร่ำรวยคือการกล้าเสี่ยงลงทุนในโอกาสที่มีศักยภาพสูง แม้จะใช้เงินจำนวนไม่มากก็ตาม คนที่ยอมเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่คุ้มค่ามักประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าคนที่เล่นแต่ปลอดภัย จงฉกฉวยจังหวะและลงมือลงทุนอย่างชาญฉลาด.
  62. You make yourself rich by selling. You make yourself wealthy by not having to sell คุณอาจจะร่ำรวยได้ด้วยการขาย แต่เมื่อใหร่ก็ตามที่คุณมั่งคั่งคุณจะไม่ต้องขายอีกต่อไป การขายสินค้าหรือบริการสามารถทำให้คุณร่ำรวยได้ในระยะสั้น แต่หากต้องการความมั่งคั่งที่ยั่งยืน คุณต้องสร้างแหล่งรายได้ทางอ้อมที่ไม่ต้องพึ่งพาการขายอีกต่อไป เช่น การลงทุน การถือหุ้น หรือการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง.
  63. Pay all your taxes! You don't want to be disqualified due to a technicality อย่าเลี่ยงภาษี คุณคงไม่อยากทำผิดกฏหมายด้วยเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ การเลี่ยงภาษีอาจดูเหมือนช่องทางลัดสู่ความร่ำรวย แต่มันเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบและลงโทษอย่างหนัก ซึ่งอาจทำให้คุณต้องสูญเสียโอกาสความก้าวหน้าครั้งสำคัญในชีวิต จงซื่อสัตย์และจ่ายภาษีอย่างครบถ้วน เพื่อไม่ให้ติดกับดักความสำเร็จของตัวเอง.
  64. Avoid emotional altercations. Nobody remembers any situation where losing your temper created a positive outcome หลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้งด้วยอารมณ์ ไม่มีใครได้หมดหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะโมโห เมื่อถูกยั่วโมโห อย่าปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาครอบงำจนหลุดพ่นวาจาหรือลงมือทำร้ายใคร เพราะการกระทำด้วยอารมณ์มักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ด้านลบเสมอ จงฝึกสติและควบคุมสีหน้าท่าทางให้เป็น แล้วใช้เหตุผลสื่อสารอย่างนุ่มนวล.
  65. Once the words are spoken, they're no longer only yours เมื่อพูดออกไปแล้ว คำพูดเหล่านั้นไม่ได้เป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียวอีกต่อไป คำพูดเมื่อหลุดออกจากปากไปแล้ว ก็จะถูกรับรู้และตีความโดยผู้อื่น ซึ่งคุณไม่สามารถควบคุมการรับรู้หรือผลกระทบจากมันได้อีกต่อไป ดังนั้นก่อนจะพูดอะไร จงคิดถึงความรู้สึกของผู้ฟัง ใช้คำที่สื่อความหมายชัดเจน และหลีกเลี่ยงคำที่จะสร้างความเดือดร้อนให้ภายหลัง.
  66. Learn to be where your feet are เรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน มนุษย์มักจะคิดถึงอดีตที่ผ่านไปหรือกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง จนลืมมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ จงฝึกสติและความรู้ตัวทั่วพร้อม (mindfulness) เพื่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำตรงหน้าอย่างเต็มที่ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นและดำเนินไปในปัจจุบันเท่านั้น.
  67. Don't be a slave to the person you used to be! Forgive your past and move on อย่าเป็นทาสของตัวคุณเองในอดีต จงให้อภัยตัวเองและก้าวต่อไป หากคุณเคยทำผิดพลาดมาในอดีต อย่าจมปลักอยู่กับความรู้สึกผิดหรือพ่ายแพ้ จนถูกภาพลักษณ์เดิมๆ มาตีกรอบตัวคุณ จงยอมรับสิ่งที่ผ่านมา ให้อภัยตัวเอง แล้วมุ่งสู่การเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมในวันนี้.
  68. Don't die with the music still in you. Find your gift อย่าตายถ้ายังมีไฟในตัว จงค้นหาพรสวรรค์ของคุณ ทุกคนล้วนมีความสามารถพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งหากได้ค้นพบและบ่มเพาะ ก็จะส่งผลให้ชีวิตพุ่งทะยานไปอย่างงดงาม อย่าปล่อยให้พรสวรรค์นั้นสูญเปล่า จงใช้เวลาค้นหาตัวเอง ฝึกฝนทักษะ และแสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มเปี่ยม.
  69. Find your voice. Learn to speak as yourself ค้นหาเสียงของคุณ เรียนรู้ที่จะพูดในแบบที่เป็นคุณ การลอกเลียนแบบผู้อื่นอาจทำให้คุณประสบความสำเร็จได้บ้าง แต่คุณจะโดดเด่นอย่างแท้จริงต่อเมื่อกล้าเป็นตัวของตัวเอง จงค้นหาสไตล์ ทัศนคติ และลีลาการสื่อสารที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ แล้วพัฒนามันจนสามารถสะกดใจผู้คนได้ในแบบฉบับของคุณเอง.
  70. Be courageous. The journey starts when you take the first step, not when you think about taking the first step จงกล้าหาญ การเดินทางนั้นเริ่มต้นจากก้าวแรกจริง ไม่ใช่แค่คิดเฉย ๆ หลายคนมีความฝันแต่ไม่กล้าลงมือทำ เพราะกลัวความล้มเหลวหรือความท้าทายที่รออยู่ ความกล้าหาญคือสิ่งที่จะผลักดันให้คุณก้าวข้ามความกลัว ออกจากพื้นที่ปลอดภัย แล้วลงมือเปลี่ยนความฝันให้เป็นจริงสักที จงตั้งเป้าหมายและเริ่มต้นวันนี้เลย แม้มันจะเป็นแค่การเคลื่อนไหวเล็กๆ ก็ตาม.
  71. It's never the first mistake that ruins you, it's the series of mistakes that follow it ไม่ใช่ความผิดพลาดครั้งแรกที่ทำลายคุณ แต่เป็นความผิดพลาดที่ตามมาอีกต่างหาก ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาด แต่คนที่ล้มเหลวมักจะไม่ได้อับปางเพราะความผิดพลาดครั้งแรก แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่ยอมรับความผิดพลาดและแก้ไขมัน จนเกิดความผิดพลาดลูกโซ่ตามมาอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อเกิดความผิดพลาด จงรีบยอมรับและแก้ไขมันโดยเร็ว ก่อนที่มันจะลุกลามใหญ่เกินแก้.
  72. There's no such thing as "your truth". Truth is reality, what you have is your perspective on reality. Do not confuse the two ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "ความจริงของคุณ" ความจริงคือความเป็นจริง สิ่งที่คุณมีคือมุมมองต่อความเป็นจริงเท่านั้น อย่าสับสนระหว่างสองสิ่งนี้ ผู้คนมักอ้างถึง "ความจริงของตนเอง" เพื่อปกป้องมุมมองอันจำกัด ทั้งๆ ที่มุมมองของแต่ละคนต่อความจริงเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวเท่านั้น ความจริงคือสิ่งที่ดำรงอยู่อย่างเป็นกลางนอกตัวเรา อย่ายึดติดกับความเชื่อของตน จนเข้าใจผิดคิดว่ามันคือความจริงทั้งหมด จงเปิดใจรับฟังและพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา.
  73. If you want to avoid making the same mistake twice, make more decisions based on your past memories and less decisions based on your current emotions หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำซาก ควรพิจารณาตัดสินใจโดยใช้ประสบการณ์ในอดีตของคุณมากกว่าความรู้สึกปัจจุบันของคุณ การตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ชั่ววูบมักนำไปสู่ความผิดพลาดแบบเดิมซ้ำ ๆ เพราะอารมณ์ทำให้คุณหลงลืมบทเรียนในอดีต วิธีที่ดีคือใช้สติทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมา แล้วนำมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ความทรงจำเป็นเหมือนคลังอาวุธชั้นดีที่จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์คล้ายๆ กันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ.
  74. You don't expand by becoming someone else, you expand by becoming more of yourself คุณไม่สามารถเติบโตได้โดยการลอกเลียนแบบคนอื่น การเติบโตเกิดขึ้นจากการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น หนทางสู่การเติบโตที่แท้จริงไม่ใช่การลอกเลียนแบบคนอื่น แต่เป็นการค้นหาและเติมเต็มศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณเอง จงใช้เวลาทำความรู้จักตนเอง สำรวจความชอบ ค้นหาจุดแข็ง และพัฒนาทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ ยิ่งคุณกล้าเป็นตัวเองมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งโดดเด่นและประสบความสำเร็จในแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้มากขึ้นเท่านั้น.
  75. The greater the monster, the greater the hero. When you start growing, you'll get growing pains! ตัวร้ายยิ่งเก่งเท่าไหร ฮีโร่ก็ต้องยิ่งใหญ่ตามเท่านั้น เมื่อคุณเริ่มเติบโต คุณจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการเติบโต การเติบโตมักจะมาพร้อมกับความท้าทายที่ยากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนฮีโร่ในเกมที่ต้องเผชิญกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าในด่านใหม่ๆ ความเจ็บปวดจากการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นความกดดัน ความกลัว หรืออุปสรรคต่างๆ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยที่จะทำให้คุณกลายเป็นฮีโร่ในชีวิตของตัวเอง จงอย่าหวั่นกลัวกับความเจ็บปวดเหล่านั้น แต่จงเผชิญหน้ากับมันอย่างองอาจกล้าหาญ
  76. Cost of public failure is the ticket to the life you want to live ต้นทุนของความล้มเหลวที่เปิดเผย คือตั๋วเดินทางสู่ชีวิตในแบบที่คุณอยากเป็น หลายคนกลัวความอับอายขายหน้าที่ตามมากับความล้มเหลว โดยเฉพาะความล้มเหลวที่เกิดขึ้นต่อหน้าธารกำนัลต่อสายตาผู้คน แต่หากเปลี่ยนมุมมองใหม่ คุณจะพบว่าต้นทุนของความล้มเหลวนั้นคือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับการได้ใช้ชีวิตในแบบที่คุณปรารถนา ยิ่งกล้าล้มเหลว เรียนรู้ และลุกขึ้นสู้ต่อ คุณก็จะยิ่งเข้าใกล้ประตูสู่ความฝันได้เร็วยิ่งขึ้น.
  77. You already know this by now, but if you don't build your own dream, someone will hire you to build theirs คุณคงรู้อยู่แล้วว่า หากคุณไม่ลงมือสร้างความฝันของตัวเอง คนอื่นก็จะจ้างคุณไปช่วยสร้างความฝันของเขาแทน หากคุณยังลังเลที่จะออกตามล่าหาความฝันของตนเอง ไม่ช้าคุณก็จะถูกดึงเข้าไปเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนความฝันของใครซักคนแทน ซึ่งนั่นหมายถึงการต้องเสียสละเวลาและพลังงานส่วนใหญ่ไปกับการทำให้คนอื่นประสบความสำเร็จ ดังนั้นอย่ารอช้า จงค้นหาสิ่งที่คุณรักและอยากทำ แล้วลงมือทำมันอย่างจริงจัง เพราะถ้าไม่ใช่ตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกเมื่อไร.
  78. Being busy is not a flex. It means you don't have control over your life การเป็นคนยุ่งอยู่ตลอดเวลานั้นเป็นอะไรที่ไม่น่าภูมิใจ เพราะมันหมายความว่าคุณยังไม่มีอำนาจควบคุมชีวิตของตัวคุณเอง สังคมยุคใหม่มักชื่นชมคนที่ดูเหมือนยุ่งเหยิงอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าความวุ่นวายคือเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จ ทั้งที่จริงแล้วการมีชีวิตที่จำเจไปด้วยกิจกรรมที่ไม่จำเป็นและไม่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว เป็นสัญญาณของคนที่ปล่อยให้ชีวิตควบคุมตัวเอง แทนที่จะเป็นผู้ควบคุมชีวิต จงกล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่สำคัญ เพื่อเปิดพื้นที่ให้สิ่งที่สำคัญแท้จริง และใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น.
  79. Stop opening new tabs in your mind. It slows down your processing power! หยุดเปิดแท็บใหม่ๆ ในหัวของคุณเสียที เพราะมันจะทำให้ความเร็วในการประมวลผลของสมองช้าลง สมองของเรามีพื้นที่จำกัด เหมือนหน่วยความจำในคอมพิวเตอร์ การคิดถึงเรื่องหลายๆ เรื่องพร้อมกันเหมือนการเปิดแท็บใหม่ๆ ในสมองไว้เยอะแยะ ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการโฟกัสและแก้ปัญหาของคุณลดน้อยลง จงฝึกจัดการความคิด เลือกสนใจเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายปัจจุบัน ปิดแท็บอื่นๆ และอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่ เพื่อคุณภาพของผลงานที่ดีกว่า.
  80. Anything that you can do for a limited time that has lifelong returns.. do it! สิ่งใดก็ตามที่คุณสามารถทำในเวลาจำกัดแล้วได้ผลตอบแทนตลอดชีวิต...ทำมันเลย! โปรเจกต์หรือกิจกรรมบางอย่าง แม้จะใช้เวลาทำไม่นาน แต่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตคุณได้อย่างมหาศาล เช่น การเรียนภาษาใหม่ การออกกำลังกาย หรือการสร้างความสัมพันธ์กับคนสำคัญ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงจะให้ผลลัพธ์ทางบวกเฉพาะหน้า แต่ยังส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของคุณในระยะยาวด้วย ดังนั้นอย่าลังเลที่จะลงทุนเวลาและพลังงานไปกับกิจกรรมเหล่านี้ เพราะมันจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน.
  81. You don't need more advice! You need to finish your to-do list! คุณไม่ต้องการคำแนะนำเพิ่มอีกแล้ว สิ่งที่คุณต้องการคือการลงมือทำสิ่งที่อยู่ในลิสต์ของคุณให้เสร็จสักที ในยุคข้อมูลข่าวสารเช่นนี้ ผู้คนมักติดกับดักการรับข้อมูลไม่รู้จบ จมอยู่กับการอ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ หรือดูคลิปเพื่อรอคำแนะนำวิเศษที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ทั้งๆ ที่พวกเขามีความรู้และเครื่องมือเพียงพออยู่แล้ว สิ่งที่ยังขาดคือการลงมือทำตามแผนที่วางไว้ให้สำเร็จต่างหาก จงหยุดเสพคอนเทนต์ แล้วหันมาโฟกัสกับการปฏิบัติ เพราะความรู้ที่ไม่ถูกนำมาใช้ย่อมไร้ค่าเสมอ.
  82. Learn to use the knowledge of the past and you will seem like a genius of the present! เรียนรู้ที่จะใช้ความรู้จากอดีตให้เป็น และคุณจะดูเหมือนอัจฉริยะในยุคปัจจุบัน คนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์และเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนรุ่นก่อน เพราะหลายครั้งคำตอบที่เราต้องการกลับซ่อนอยู่ในอดีตนั่นเอง การมองย้อนกลับไปดูว่าผู้คนในอดีตแก้ปัญหาคล้ายๆ กันอย่างไร แล้วนำมาปรับใช้กับบริบทสมัยใหม่ จะช่วยให้คุณคิดนอกกรอบและสร้างสรรค์ไอเดียเจ๋งๆ ที่ใครๆ ก็ต้องทึ่ง.
  83. Use knowledge as soon as you get it, for its value decreases over time with the number of people that hold it ใช้ความรู้ทันทีที่ได้มา เพราะมูลค่าของมันจะลดลงตามเวลาและจำนวนคนที่ครอบครองมัน ความรู้ก็เหมือนกับสินค้า ยิ่งมีคนครอบครองมากเท่าไร มูลค่าของมันก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น ยิ่งคุณรีรอที่จะนำความรู้มาใช้ ก็ยิ่งมีคนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ และความได้เปรียบของคุณก็จะค่อยๆ หมดไป จงรีบนำความรู้ใหม่ๆ มาปรับใช้ในชีวิตจริงหรือต่อยอดเป็นธุรกิจโดยเร็ว ก่อนที่ทุกคนจะรู้เรื่องนั้นและตลาดเริ่มอิ่มตัว.
  84. If you feel undervalued, the first thing you should do is switch locations because: Location changes value! ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า สิ่งแรกที่ควรทำคือการย้ายสถานที่ เพราะสถานที่ต่างกัน คุณค่าก็ต่างกัน บางครั้งการรู้สึกไร้ค่าอาจไม่ได้เกิดจากตัวคุณ แต่มาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่างหาก เพียงแค่ย้ายไปอยู่คนละที่ คุณอาจได้รับการยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวเองมากกว่าเดิมก็ได้ จงกล้าออกไปสำรวจโลกใบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในต่างประเทศ การเข้าร่วมกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกัน หรือแม้กระทั่งการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ เพื่อค้นหาที่ที่คุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง.
  85. Whenever you feel stupid about something is a signal that you just got smarter เมื่อไรก็ตามที่คุณรู้สึกโง่เขลาเบาปัญญาเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันคือสัญญาณบอกว่าคุณเพิ่งฉลาดขึ้น ความรู้สึกโง่เขลาไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่เป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณเพิ่งเปิดมุมมองใหม่ๆ ได้เพิ่มพูนสติปัญญาขึ้นอีกระดับ อย่ากลัวที่จะยอมรับว่าตัวเองไม่รู้ เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ผู้ที่กล้ายอมรับความไม่รู้ของตนเองจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขามองโลกด้วยใจเปิดกว้างที่พร้อมจะซึมซับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ.
  86. Although people say they don't know where to start, the reality is that too many options are what's stopping you from taking action แม้ผู้คนจะบอกว่าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แต่ความจริงคือตัวเลือกมากมายนั่นแหละที่หยุดพวกเขาไม่ให้ลงมือทำ บ่อยครั้งที่ผู้คนใช้ข้ออ้างว่าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ทั้งที่จริงแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่การขาดข้อมูล แต่เป็นเพราะมีตัวเลือกมากเกินไปจนตัดสินใจไม่ถูกต่างหาก ภาวะอัมพาตเชิงวิเคราะห์หรือ Analysis Paralysis นี้ทำให้คนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวว่าจะเลือกทางผิด จงอย่าตกหลุมพรางของการพยายามหาทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ แต่จงกล้าตัดสินใจเลือกสักทางแล้วเริ่มทำ เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง.
  87. When we know what to do, knowing when to do it becomes the hard part!  เมื่อเรารู้ว่าจะทำอะไร การรู้ว่าจะทำเมื่อไรกลับกลายเป็นเรื่องยาก การมีแผนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่การปฏิบัติตามแผนอย่างมีวินัยต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญที่สุด หลายคนมีเป้าหมายที่ชัดเจนแต่ไม่เคยบรรลุ เพราะพวกเขาผัดวันประกันพรุ่ง รอโอกาสที่ดีที่สุด ซึ่งไม่มีวันมาถึง จงหัดกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการลงมือทำ อย่าปล่อยให้แผนการของคุณเป็นแค่ความฝัน แต่จงทำให้มันเป็นพิมพ์เขียวของชีวิตที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด.
  88. The world you were born in no longer exists, so open your mind and get ready for the future โลกที่คุณเกิดมาไม่มีอยู่อีกแล้ว ดังนั้นจงเปิดใจและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต เราทุกคนต่างโหยหาอดีตที่คุ้นเคยในวัยเด็ก แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปจนแทบจำไม่ได้แล้ว แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับโลกเก่า จงปรับตัวและเปิดรับโลกใบใหม่ ฝึกสายตาให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลง จับทิศทางความเป็นไปในอนาคต และปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสของโลก เพียงเท่านี้คุณก็จะก้าวทันคนอื่นและพร้อมรับมือกับทุกเรื่องที่จะเกิดขึ้น.
  89. The goal is to be an intellectual athlete! Being an end-to-end thinker is a superpower! เป้าหมายคือการเป็นนักกีฬาทางปัญญา การคิดอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นจนจบเป็นพลังพิเศษ ยุคนี้เป็นยุคของสติปัญญา ผู้ที่จะประสบความสำเร็จคือผู้ที่ฝึกสมองให้แข็งแกร่ง คิดเป็นระบบ และเชื่อมโยงไอเดียจากหลากหลายสาขาเข้าด้วยกัน คุณสมบัติเหล่านี้เป็นเหมือนพลังพิเศษที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ปัญหาได้ลึกซึ้ง ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ และสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่กว่าใคร จงหมั่นฝึกฝนทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ การคิดนอกกรอบ และการมองภาพรวม เพื่อยกระดับสมองของคุณให้ทรงพลังยิ่งกว่าคนทั่วไป.
  90. Doing what you want = freedom. Liking what you do = happiness ทำในสิ่งที่อยากทำ = อิสรภาพ ชอบในสิ่งที่ทำ = ความสุข อิสรภาพและความสุขคือสองสิ่งที่ผู้คนปรารถนามากที่สุด อิสรภาพจะเกิดขึ้นเมื่อคุณสามารถทำในสิ่งที่คุณอยากทำ ปลดปล่อยตัวเองจากกรอบหรือข้อจำกัดจากสังคม ส่วนความสุขจะเกิดขึ้นเมื่อคุณรักในสิ่งที่ทำ มีความสุขกับกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ เมื่อสองสิ่งนี้บรรจบกัน นั่นแหละคือจุดที่ชีวิตของคุณจะสมบูรณ์แบบที่สุด.
  91. Be careful of who you choose to follow! Put a clown on a throne and the whole kingdom becomes a circus จงระวังในการเลือกติดตามใคร ถ้าคุณยกตัวตลกขึ้นนั่งบัลลังก์ ราชอาณาจักรทั้งหมดก็จะกลายเป็นละครสัตว์ การเลือกผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นบอสหรืออินฟลูเอนเซอร์ที่คุณติดตาม ล้วนมีผลต่อวิถีชีวิตของคุณอย่างมหาศาล ถ้าคุณเลือกคนผิด คุณอาจจะถูกชักจูงไปในทางที่ผิด หรือกลายเป็นเหยื่อของดราม่าไร้สาระโดยไม่รู้ตัว จงใช้วิจารณญาณในการเลือกบุคคลต้นแบบ มองที่คุณธรรมและความสามารถที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ภายนอกหรือคำพูดที่ดูดี.
  92. Don't mistake an expensive lifestyle for a happy life อย่าเข้าใจผิดคิดว่าวิถีชีวิตแพงๆ คือชีวิตที่มีความสุข ในโลกแห่งวัตถุนิยม ผู้คนมักเข้าใจผิดคิดว่าการมีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยหรูหรา จะทำให้มีความสุขมากกว่าคนอื่น ทั้งที่จริงแล้วความสุขที่แท้จริงมักมาจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างความสัมพันธ์ที่ดี สุขภาพที่แข็งแรง และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย จงอย่าตกเป็นทาสของวัตถุ แต่จงรู้จักพอและซาบซึ้งในสิ่งที่คุณมี เพื่อสัมผัสกับความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน.
  93. Time doesn't heal anything.. it just piles up new memories and distractions เวลาไม่ได้รักษาอะไรเลย มันเพียงแค่เพิ่มความทรงจำและสิ่งหันเหความสนใจใหม่ๆ ขึ้นมา หลายคนเชื่อว่าเวลาจะช่วยเยียวยาบาดแผลทางใจได้ แต่ในความเป็นจริง เวลาเพียงแค่ช่วยให้คุณลืมความเจ็บปวด ด้วยการสร้างความทรงจำใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่ได้แก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุของความทุกข์แต่อย่างใด หากคุณอยากจะเยียวยาตัวเองอย่างแท้จริง จงกล้าเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด วิเคราะห์ถึงต้นตอของมัน และปรับเปลี่ยนตัวเองให้เติบโตขึ้นจากมัน.
  94. Strive for peace not happiness มุ่งสู่ความสงบ ไม่ใช่ความสุข ผู้คนมักมุ่งหาความสุขเหมือนกับมันเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต แต่ความจริงคือ ความสุขเป็นอารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราวที่มักผันแปรตามสถานการณ์ภายนอก สิ่งที่จะอยู่กับคุณได้นานกว่าคือความสงบทางใจ ซึ่งเกิดจากการยอมรับตัวเองและโลกรอบตัวตามความเป็นจริง จงหาสันติสุขจากข้างใน แทนการไขว่คว้าหาความสุขจากภายนอก เพื่อให้คุณมีชีวิตที่มั่นคงไม่ว่าจะเผชิญกับอะไร.
  95. We are born with the seed of death in us. If you were to die tomorrow would you be proud of how you lived your life? พวกเราเกิดมาพร้อมกับเมล็ดพันธุ์แห่งความตายในตัว หากคุณต้องตายในวันพรุ่งนี้ คุณจะภูมิใจในชีวิตที่คุณใช้มาหรือไม่? แทนที่จะใช้ชีวิตเหมือนเรามีเวลาอีกนาน ลองนึกถึงสถานการณ์สมมติที่คุณจะตายวันพรุ่งนี้ดู แล้วถามตัวเองว่า คุณจะพอใจกับชีวิตที่ผ่านมาหรือไม่? คุณได้ทำในสิ่งที่ใฝ่ฝันไว้หรือยัง? คุณได้ใช้เวลากับคนที่รักเท่าที่ควรหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้จะช่วยปลุกคุณให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ กล้าลงมือทำในสิ่งที่สำคัญ และซาบซึ้งในทุกช่วงเวลา ก่อนที่มันจะสายเกินไป.
  96. You should never have a problem turning the page of your life. Life has seasons the same way nature does คุณไม่ควรลำบากใจที่จะพลิกหน้าชีวิตของคุณ ชีวิตมีฤดูกาลเหมือนกับธรรมชาติ ชีวิตของคนเรา ก็เหมือนกับธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักร มีช่วงเวลาที่เบ่งบาน และมีช่วงเวลาที่โรยรา สิ่งที่เคยเหมาะกับเราในอดีต อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับเราในปัจจุบันหรืออนาคต จงอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง อย่ากลัวที่จะปล่อยวางสิ่งเก่าๆ แล้วเริ่มต้นบทใหม่ เพื่อให้ชีวิตได้เติบโตไปพร้อมๆ กับฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน.
  97. You win at life when you enjoy the passing of time คุณจะชนะเกมชีวิต เมื่อคุณเพลิดเพลินไปกับการหมุนเวียนของกาลเวลา เพราะเวลาเป็นสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถย้อนคืนมาได้ การได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและมีความสุขในแต่ละช่วงขณะ ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต ไม่ใช่การมีเงินทองมากมายหรือสถานะทางสังคมที่สูงส่ง แต่เป็นความสามารถในการมีความสุขกับการเดินทางของชีวิตนี่แหละ ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง จงเติมเต็มทุกวันด้วยสิ่งที่คุณรัก และคนที่คุณห่วงใย เพียงเท่านี้คุณก็เป็นผู้ชนะของชีวิตแล้ว.
  98. Sometimes more money is just too expensive บางครั้งเงินที่มากขึ้น ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงเกินไป การมีเงินมากขึ้น อาจฟังดูเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียสิ่งอื่นๆ ที่อาจมีคุณค่ามากกว่าเงิน เช่น เวลากับครอบครัว สุขภาพที่ดี หรือความฝันที่อยากทำ บางครั้งการไขว่คว้าหาเงินมากๆ อาจไม่คุ้มกับสิ่งที่คุณต้องเสียไป จงชั่งน้ำหนักระหว่างสิ่งที่ได้และเสีย และจำไว้เสมอว่าเงินไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง บางเรื่องไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน และนั่นอาจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็ได้.
  99. The reward is better when you've earned it. There's beauty in the struggle รางวัลจะดีกว่าเมื่อคุณต้องทำเพื่อให้ได้มัน ความงามซ่อนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ รางวัลที่ได้มาโดยง่าย มักจะไม่มีค่าเท่ารางวัลที่ต้องแลกมาด้วยเหงื่อ น้ำตา และความพยายาม เพราะกระบวนการที่ยากลำบากต่างหากที่จะทำให้รางวัลนั้นมีความหมาย และทำให้เราเติบโตเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่าเดิม จงอย่าหวั่นกลัวต่ออุปสรรคขวากหนาม แต่จงเห็นพวกมันเป็นบททดสอบที่จะขัดเกลาคุณ เพราะท้ายที่สุดแล้ว รสชาติของความสำเร็จจะหอมหวานกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า.
  100. The goal is to no longer have any goals! Success is a self-perpetuating game that you can only win by deciding that you've already won เป้าหมายคือการไม่มีเป้าหมายอีกต่อไป ความสำเร็จคือเกมที่คุณชนะได้ก็ต่อเมื่อคุณกล้าตัดสินใจว่าคุณชนะแล้ว ในตอนแรก เรามักจะตั้งเป้าหมายเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวหน้า แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราควรมุ่งหวังคือการมีชีวิตที่มีความหมายในแต่ละขณะ แทนที่จะผูกติดอยู่กับเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การบรรลุเป้าหมาย แต่เป็นเพราะเราตัดสินใจเชื่อว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสิ่งใดรับรองก็ตาม จงหยุดคิดว่าความสุขอยู่ที่จุดหมายปลายทาง แต่จงหันมาเพลิดเพลินและซาบซึ้งกับทุกย่างก้าวที่คุณได้เดิน เพราะนั่นแหละคือความหมายที่แท้จริงของชีวิต

Credit:

Log in to Facebook
Log in to Facebook to start sharing and connecting with your friends, family and people you know.

..ที่มาข้อมูล alux.com