จักรยาน การเงิน และการเดินทางของเวลา

เคยสงสัยไหม ว่าก้อนหินที่อยู่ตรงหน้ามันมาจากใหน ... ต้นไม้ต้นโน้นมันอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ . นกฝูงนั้นกำลังบินไปใหนกัน?  คำถามเหล่านี้อาจจะยากที่จะหาคำตอบ แต่สิ่งหนึ่งที่คำถามเหล่านี้บอกเราคือ สรรพสิ่งในโลก ล้วนแต่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่

สรรพสิ่งในโลกนี้ ต่างล้วนเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา บางอย่างก็เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางอย่างก็เชื่องช้าจนดูเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ กระแสธารแห่งกาลเวลานั้นเป็นสิ่งที่พัดพาสรรพสิ่งต่างๆ ให้ไหลไปตามครรลองของมัน กระแสธารแห่งกาลเวลานั้นยุติธรรมกับทุกสรรพสิ่งเสมอ มันไม่เคยชลอ หรือหยุดยั้งให้กับสิ่งใด

.... เวลาเดินไปข้างหน้า ชีวิตก็ต้องก้าวไปข้างหน้า แต่ทำไมการเงินของเรากลับไม่ก้าวไปข้างหน้า? บ่อยครั้งมันกลับสวนทางเอาเสียดื้อๆ

บางคนทุ่มเทหาเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอเลี้ยงปากท้อง ในขณะที่บางคนมีเงินทองไหลมาอย่างไม่ขาดสาย โดยที่ไม่ต้องลงแรงอะไรมากมาย กาลเวลานั้นยุติธรรมกับทุกสรรพสิ่ง แต่การเงินนั้นกลับไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย

... แต่ ก่อนที่เราจะโทษความยุติธรรม เราลองหาสาเหตุว่าทำไมคนสองคนนี้ถึงได้แตกต่าง ๆ กัน โดยใช้กฏการเคลื่อนที่และเวลาเป็นตัวกำหนด

สมมติว่าทุกระยะทาง 1 เมตรมีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท นักวิ่งสองคนเริ่มออกเดินทางที่จุดเดียวกันพร้อมกัน เมื่อเดินมาถึงระยะ 100 เมตร A นำเงินที่เก็บได้ระหว่างทางซื้อจักรยานแล้วเริ่มต้นปั่นจากจุด 100 เมตร ขณะที่ B ยังคงเดินต่อไป A ปั่นจักรยานถึงจุดที่ 200 เมตร A ขายจักรยานแล้วซื้อแแล้วเริ่มขับออกจากจุด 200 เมตร ขณะที่ B ยังเดินต่อไป เมื่อถึงจุด 500 เมตร A ขายมอเตอร์ไซค์แล้วซื้อรถยนต์ ขณะที่ B ยังคงเดินต่อไป

ถ้าทุกครั้งที่เปลี่ยนพาหนะ A จะเดินทางได้เร็วขึ้นหนึ่งเท่าตัว ในเวลาที่เท่ากัน  A ย่อมเดินทางไกลว่า B เป็นไหน ๆ และ ถ้า 1 เมตร =  1 บาท A ย่อมทำเงินได้เยอะกว่า B มากมายโดยลงแรงขยับปลายมือคุมพวงมาลัย ปลายเท้าคุมคันเร่งเท่านั้น

ทำไม A ถึงเดินทางได้ไกลกว่า เร็วกว่า และเหนื่อยน้อยกว่า B? สองคนเริ่มทำงานพร้อมกัน เก็บเงินได้เท่ากัน แต่คนหนึ่งรู้จักเรียนรู้การเงินการลงทุน ค้นหายานพาหนะที่ทำให้การเงินของตนเดินทางได้เร็วขึ้น ในขณะที่อีกคนมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินเพียงอย่างเดียว

การเงินนั้นไม่ยุติธรรมจริงๆ ดังนั้น คุณต้องรู้จักพาหนะทางการเงินที่คุณกำลังโดยสารอยู่ ถ้าคุณกำลังเดินขณะที่คนอื่นขับรถ มันก็ยากที่จะตามเขาเหล่านั้นทัน


เราเปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงตนเองได้ เราเปลี่ยนความคิดและทัศนคติคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนความคิดและทัศนคติของตัวเราเองได้