เพื่อน ไม่เหมือนกัน

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้นทุกคนเกิดมาย่อมมีเพื่อนเสมอ ไม่มากก็น้อย เคยรู้สึกไหมว่าเพื่อนบางคน อยู่ด้วยกันทุกวันแต่กลับรู้สึกเหินห่าง แต่กับเพื่อนบางคน ที่หายไปจากชีวิตหลายปี กลับมาเจอกันยังรู้สึกสนิทสนมเช่นเดิม เพื่อนบางคนอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่กลับไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรให้คุยกัน แต่กับเพื่อนบางคนที่อยู่กันคนละฟากฟ้า แต่กลับมีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟังไม่รู้จบ

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า คนที่มีเคมีตรงกัน หรือ มีศีลเสมอกัน มักจะคบกันได้นาน หากพิจารณาในแง่ของจิตวิทยา คำว่าเคมีที่ตรงกันนั้นแท้ที่จริงคือ Mind-Set หรือแนวความคิดที่คล้ายกัน ขณะเดียวกัน คำว่า ศีลเสมอกัน นั้นมีความไกล้เคียงกับคำว่า Attitude หรือทัศนคติที่สอดคล้องกัน ดังนั้นคนที่มีทัศนคติและแนวความคิดที่คล้ายกันมีแนวโน้มที่จะคบหากันได้อย่างสนิทสนมและมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกว่าเพื่อนที่มีทัศนคติและแนวความคิดที่สวนทางกัน

โดยพื้นฐานแล้ว แนวคิดและทัศนคติของแต่คนนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่การเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน ผ่านการเรียนรู้ ซึมซับอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ หากเพื่อนสนิทเมื่อสิบปีก่อน เมื่อเจอกันอีกครั้งกลับรู้สึกห่างเหิน ความเหินห่างนั้นไม่ได้เกิดจากการแยกจากกันเป็นระยะเวลานาน หากแต่เป็นกาลเวลาที่หล่อหลอมให้ความคิดและทัศนคติของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไป หลายคนที่ยังรู้สึกสนิทสนมกันนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าความคิดและทัศนคติไม่เปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยังคงสอดคล้องกัน

เมื่อเราพบเจอคนที่แนวความคิดและทัศนคติที่สอดคล้องกัน การสนทนาปราศัยมักจะลื่นใหลและผ่อนคลาย แต่กับคนที่มีความคิดและทัศนคติที่สวนทางกันนั้นจะให้ความรู้สึกที่ตรงกันข้าม คือการสนทนาที่ไม่ต่อเนื่อง และบรรยากาศในการสนทนาที่อึดอัด เมื่อพบเจอบรรยากาศแบบนี้ คำแนะนำเดียวคือพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นซะ มันไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปโน้มน้าวเปลี่ยนแปลงความคิดหรือทัศนคติของใคร สิ่งเดียวที่เราทำได้คือการรักษาแนวคิดและทัศนคติของเราไว้ให้มั่นคง

แนวคิดและทัศนคตินั้นเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาได้ มีคำกล่าวว่า เราเป็นคนแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยนของคนห้าคนรอบตัวที่เราคบหาสนิทสนมด้วย ดังนั้นการพาตัวเองไปอยู่ในสังคมของคนที่มีแนวคิดและทัศนคติที่ดี จะช่วยให้เราซึมซับและพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นด้วย และแน่นอนว่าการทิ้งตัวเองให้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีแนวคิดและทัศนคติที่แย่ เราก็จะซึมซับมันไปโดยที่ไม่รู้ตัวด้วย