เรียนอย่างไรให้กลายเป็นผู้รอบรู้
วันนี้บังเอิญได้อ่านบทความ เรื่อง "No specific skill will get you ahead in the future" ในอนาคตอันไกล้ การเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้น อาจจะไม่ช่วยให้เกิดความก้าวหน้าทางอาชีพอีกต่อไป เพราะมีแนวโน้มว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องการผู้ที่มีความรู้กว้างขวางมากกว่าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คำว่า ความรู้ที่กว้างขวาง นั้นกำกวมเป็นอย่างยิ่ง ความเชี่ยวชาญนั้นเราสามารถใช้บททดสอบต่าง ๆ ในการวัดผลได้ แต่ความกว้างขวางนั้นไม่สามารถใช้อะไรไปวัดได้ ดั้งนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า จะศึกษาหาความรู้อย่างไรให้เป็นผู้รอบรู้ที่มีความรู้กว้างขวาง
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้การเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เทคโนโลยีได้ทลายเขื่อนกั้น ปลดปล่อยความรู้ให้ไหลบ่าออกไปอย่างกว้างขวางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เหมือนเช่นเดียวกับคลื่นซึนามิสาดซัดเข้าใส่ผู้ใฝ่รู้ทั้งหลายอย่างหนักหน่วง ผู้คนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้จากหลากหลายช่องทาง จากแทบทุกที่
ด้วยจำนวนข้อมูลความรู้ที่หลากหลายและเข้าถึงง่ายนั้นเป็นผลดีต่อการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันกลับทำให้เราไม่สามารถจดจ่ออยู่กับความรู้ด้านใดด้านหนึ่งได้นาน สมาธิของเรามักจะถูกดึงดูดจากข้อมูลอื่น ๆ ที่สอดแทรกมาในระหว่างทางอยู่เสมอ หลายครั้งเราจึงพบว่า เราห่างจากสิ่งที่เราต้องการศึกษาจริง ๆ ออกไปไกลโข และหลายครั้งแทบจะลืมไปเลยว่าจริง ๆ แล้วเราตั้งใจศึกษาเรื่องอะไร ท้ายที่สุดสิ่งที่เรียนรู้เหล่านั้นกลับมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของเราจริง ๆ เพียงน้อยนิด
ความไม่รู้นั้นเปรียบเสมือนอาการป่วยใข้ ส่วนความรู้เปรียบเสมือนยารักษา การป่วยใข้นั้นมีหลากหลายรูปแบบ และต้องใช้ยาต่างขนานในการรักษา หากจ่ายยาไม่ถูกกับโรค ก็ยากยิ่งที่จะหายขาด ดังนั้น การรู้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในกระบวนการรักษา ดังนั้นการตระหนักรู้ว่าตนขาดความรู้ด้านใดนั้นสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการลงมือศึกษาหาความรู้
แต่ก่อนที่จะลงมือศึกษาหาความรู้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องตอบตนเองให้ได้ก่อนว่า ความรู้ที่เรากำลังจะศึกษานั้นมีประโยชน์ตัวเราอย่างไร ทำไมจึงต้องมีความรู้นั้น ๆ ติดตัว จริงอยู่ที่ว่า ความรู้ทุกอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่จะดีกว่าถ้าเราสามารถเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและคนรอบข้าง การพยายามเรียนรู้ไปเสียทุกเรื่องนั้นเปรียบเสมือนคนป่วยที่ทานยาทุกอย่างที่ขวางหน้า แทนที่จะให้ประโยชน์ รังแต่จะก่อเกิดโทษแทน แต่หากผู้ป่วยที่รู้ว่าตนเองป่วย แต่มิยินยอมที่จะรักษา ต่อให้มียาดีเพียงไดก็ไร้ซึ่งประโยชน์
ความใฝ่รู้เป็นจะทำให้เราเป็นผู้รอบรู้ แต่การรู้จักเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้เราเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ