แพ้อย่างมืออาชีพ

การเทรดนั้นเป็นเกมและไม่มีใครที่เล่นเกมแล้วจะชนะตลอด ต่อให้เล่นเก่งแค่ไหน เล่นมานานแค่ไหนก็ตาม เกมต้องมีแพ้ชนะถึงจะสนุกและมีสีสัน แต่เกมการเทรดนั้นไม่มีใครอยากแพ้ เพราะหมายถึงต้นทุนหน้าตักหดหายไป แต่มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำอย่างไรถึงจะสามารถควบคุมความเสียหายให้น้อยที่สุด? ดังนั้นการแพ้อย่างมืออาชีพ คือแพ้แต่เสียหายน้อย

สิ่งที่วัดความสำเร็จในเกมการเทรดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่แพ้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถจัดการความเสียหายในการแพ้แต่ละครั้งได้ดีเท่าไหร่

แล้วทำไมไม่วัดความสำเร็จด้วยจำนวนครั้งที่ชนะ? จำนวนครั้งที่ชนะนั้นไม่สามารถการันตีได้ว่าเทรดเดอร์คนนั้นจะประสบความสำเร็จในระยะยาว ในตลาดขาขึ้นนั้นหลับหูหลับตาซื้อก็ยังกำไร เคยมีการทดสอบโดยให้ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนเลือกหุ้นมา 10 ตัวแล้วเอาลิงชิมแปนซีมาจิ้มเลือกหุ้นในจำนวนเท่ากัน ผลทดสอบนั้นน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนนั้นแพ้ลิงชิมแปนซี เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในยามตลาดขาขึ้น แต่ส่วนมากไม่รอดในตลาดขาลง การเทรดนั้นเป็นเกมระยะยาวที่ไม่มีวันจบ จำนวนครั้งที่ชนะไม่อาจการันตีได้ว่าเทรดเดอร์นั้นจะอยู่รอดในระยะยาว แต่การจัดการทุกการแพ้ให้เสียหายน้อยที่สุดนั้นสามารถการันตีได้ว่าคุณจะไม่ถูกกวาดออกไปจากตลาดง่าย ๆ แน่นอน

วิธีชนะ VS วิธีแพ้

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะมองหาวิธีเอาชนะในการเทรด แน่นอนว่าเพราะมันหมายถึงกำไร นี่คือข้อแตกต่างที่สำคัญของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จกับเทรดเดอร์ที่ออกจากตลาดส่วนใหญ่ การมองหาวิธีเอาชนะตลาดนั้นยาก แต่สิ่งที่ง่ายกว่านั้นคือการจัดการทุกการเทรดแพ้ให้เสียหายน้อยที่สุด กล่าวอีกอย่างคือ ผู้แพ้พยายามขวนขวายเรียนรู้ เสาะหาวิธีเอาชนะ ในขณะที่ผู้ชนะส่วนใหญ่ เรียนรู้ ฝึกฝนวิธีแพ้จนเชี่ยวชาญ

แพ้ให้เป็นแล้วชัยชนะจะตามมาเอง

การเทรดแพ้นั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถขจัดให้หมดสิ้นไปจากชีวิตในฐานะเทรดเดอร์ได้ แต่เราควบคุมมันได้ วิธีการนั้นควบคุมนั้นฟังดูง่าย แต่ในทางปฏิบัตินั้นกลับยาก ซึ่งก็คือการ Stop loss เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาและวินัยส่วนบุคคล loss เป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่เราควบคุมมันได้ เราไม่อาจไม่ชนะทุกการเทรด แต่ทุกเทรดการแพ้ไม่สร้างหายนะให้กับพอร์ต ความสำเร็จไม่ได้วัดจากจำนวนครั้งที่ชนะ แต่วัดจากการยืนระยะในตลาด ใครอยู่ได้นานกว่า โอากาสชนะก็มากกว่า จะอยู่กับตลาดให้ได้นาน ต้องเรียนรู้การจัดการผลลัพท์ของความพ่ายแพ้ให้มีประสิทธิภาพ

เราเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เราควบคุมโลกไม่ได้ แต่เราควบคุมตัวเองได้
Photo by Sam Moghadam Khamseh / Unsplash

แพ้ให้เป็น คือจุดเริ่มต้นของชัยชนะ และความสำเร็จ

Stop Loss, เป็นคำที่บ่งบอกถึงความล้มเหลวในการเทรด แต่แท้ที่จริงแล้ว มันคือชัยชนะที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์ ถึงสามเรื่อง

  • อย่างแรกคือชนะใจตัวเอง, การเอาชนะใจตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ยากที่สุด การ Stop Loss คือผลลัทพ์ของชัยชนะนั้น เราจะไม่สามารถทำตามแผนการเทรดใด ๆ ได้เลย ไม่ว่าแผนการเหล่านั้นดีแค่ไหน รัดกุมเท่าใดก็ตาม หากเราไม่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้
  • สองคือการรักษาต้นทุนสำหรับการเทรดครั้งต่อไป สำหรับตลาดหุ้นแล้วโอกาสใหม่ ๆ มีเข้ามาเสมอ สิ่งสำคัญคือเมื่อโอกาสมาถึง ทุนต้องพร้อม,
  • สามคือโอกาสในการเทรดครั้งใหม่ สิ่งที่มีไม่จำกัดในตลาดคือโอกาส แต่สิ่งที่มีอย่างจำกัดคือเงินทุน ดังนั้นการ  Stop Loss จึงเป็นการเปิดทางให้โอกาสใหม่ทีดีกว่า

เอาชนะใจตัวเอง รักษาเงินทุน เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสครั้งต่อไป สามเรื่องนี้ไม่มีเรื่องไหนบ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ ดังนั้น Stop Loss ไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้ แต่เป็นการปูทางไปสู่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่

แพ้ศึก เพื่อชนะสงคราม

สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องทำคือ เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อหลักการ Stop Loss, ศึกษา และสร้างทัศนคติที่ดีต่อมัน เมื่อถึงเวลาต้องใช้ก็จะไม่รู้สึกลังเลอีกต่อไป ทุกครั้งที่เรา Stop Loss ตามแผน วินัยเราก็จะเติบโตขึ้น

ทุกวันคือวันใหม่

ชีวิตเทรดเดอร์นั้นทุกวันคือวันใหม่ ไม่ว่าเมื่อวานนี้จะเป็นอย่างไร มันก็เป็นเพียงอดีตที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ เราต้องลืมความผิดหวัง ความล้มเหลวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้ ความล้มเหลวที่ดูเหมือนหนักหนาสาหัสนั้น วันหนึ่งในอนาคตเมื่อเรามองย้อนกลับมา เราจะเห็นว่ามันเล็กกระจ้อยร้อยมากแค่ไหน ความล้มเหลวคือครูที่ดีที่สุด เพราะมันสร้างประสบการณ์ และประสบการณ์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยักย้ายถ่ายทอดไปให้แก่กันได้ เราสามารถรับรู้ประสบการณ์ของผู้อื่นผ่านการบอกเล่า แต่เราไม่สามารถจะเข้าถึงความรู้สึกนั้นได้จนกว่าจะประสบด้วยตนเอง สิ่งที่สำคัญคือ เราเรียนรู้อะไรบ้างจากความล้มเหลวนั้น ในโลกของเทรดเดอร์ ความล้มเหลวนั้นถือเป็นสิ่งที่มีค่า ถึงแม้เราจะสูญเสียทุนทรัพย์ แต่ความรู้และประสบการณ์ที่เราได้รับนั้นมีค่ามากกว่า และเมื่อมีความรู้และประสบการณ์ เราก็จะล้มเหลวน้อยลง และการล้มเหลวน้อยลงนั้นคือสัญญาณของความสำเร็จ ดังนั้น จงตื่นเต้นกับความล้มเหลว แต่อย่ากลัวมัน