Secrets of the Millionaire Mind, Wealth File 1.

Rich people believe "I create my life". Poor people believe "Life happens to me".

หากคิดที่สร้างมั่งคั่งร่ำรวย อย่างแรกคือต้องเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อว่าเราเป็นผู้ที่ควบคุมชีวิตของเราเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเงิน เชื่อหรือไม่ว่า มีเพียงคนจนเท่านั้นที่ใช้โชคลาภทั้งหมดที่มีไปกับการซื้อลอตเตอร์รี่ เพราะเขาเหล่านั้นเชื่ออย่างจริงจังว่า ความมั่งคั่งร่ำรวยเกิดจากการหยิบยื่นให้ของใครบางคนหรือมือที่มองไม่เห็น เขาเหล่านั้นถึงกับหยุดการงานทุกวันที่ 1 กับ 16 ของเดือน วัตถุประสงค์เพียงเพื่อไปนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ลุ้นหวย และคาดหวังว่าหนึ่งในผู้โชคดีจะเป็นเขา ไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่ได้อยากได้โชคลาภแบบนี้แม้กระทั่งคนที่ร่ำรวยก็ไม่มีข้อยกเว้น ข้อแตกต่างคือคนรวยเขาเล่นเพียงแค่สนุกสนาน ตื่นเต้น เขาไม่ได้ใช้จ่ายรายได้ครึ่งหนึ่งที่หามาได้ไปกับการซื้อลอตเตอร์รี่เหมือนที่คนจนเขาทำกัน ประการถัดมาคือเหล่าคนร่ำรวยเขารู้แล้วว่า การซื้อลอตเตอร์รี่ไม่ใช่กลยุทธ์ที่จะนำไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยได้อย่างยั่งยืน กลยุทธอย่างเดียวที่จะนำไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยคือ ต้องเชื่อมั่นในตัวเรา ศักยภาพของเรา เชื่อว่าเราคือผู้ควบคุมทุกอย่างในชีวิตของเรา เพราะสิ่งเหล่านี้คือเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้

แทนที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต, คนจนเลือกที่จะเล่นในบทบาทของการเป็นเหยื่อหรือผู้ประสบชะตากรรมอันน่าสงสาร ที่บอกว่าเขาเล่นในบทบาทของการเป็นเหยื่อแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเหล่านั้นเป็นเหยื่อจริง เขาเพียงแต่เล่นบทบาทนี้เพื่อให้ผู้คนเกิดความสงสารและหยิบยื่นบางสิ่งที่เขาต้องการให้ก็เท่านั้น แล้วอะไรคือลักษณะที่สำคัญของคนที่ชอบเล่นในบทบาทของเหยื่อผู้น่าสงสาร?

Victim Clue 1: Blame โทษคนอื่นเก่ง คนเหล่านี้ไม่เคยทำอะไรผิดในชีวิตของเขา ทุกความผิดที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากคนอื่น รวมไปถึงเรื่องความมั่งคั่งด้วย ถามว่าทำไมถึงจน? คนเหล่านี้จะชี้นิ้วออกไปทันที โทษว่าเพราะพ่อแม่จนบ้าง โทษว่าขาดโอกาสบ้าง โทษว่าเพราะเศรษฐกิจไม่ดีบ้าง โทษทุกอย่างที่โทษได้ แม้กระทั่งพระเจ้าหรือโชคชะตา แต่คนเหล่านี้ไม่เคยโทษตัวเอง เขาจะบอกว่าตนเองเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำเสมอ

Victim Clue 2: Justifying แก้ตัวเก่ง ถ้าไม่เล่นบทโทษคนอื่น ก็มักจะหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง เช่น เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตฉัน หรือเงินมันไม่สำคัญสำหรับฉันขนาดนั้นหรอก เหตุผลเดียวกันถ้าคุณลองบอกแฟนคุณ ภรรยา หรือสามีคุณว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้มีความสำคัญต่อคุณหรอก คุณคิดว่าเขาเหล่านั้นจะยังอยู่เคียงข้างคุณอยู่หรือไม่ คนรวยเขารู้ว่าเงินมีความสำคัญอย่างยิ่งในบทบาทของมัน แต่คนจนมักจะเอาเงินไปเปรียบเทียบกับอย่างอื่นที่มีบทบาทแตกต่างกันออกไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่อาจจะเทียบกันได้ เช่น เงินไม่สำคัญเท่ากับความรักหรอก การเปรียบเทียบแบบนี้เหมือนเราบอกว่า แขนไม่สำคัญเท่าขาหรอก แต่ไม่มองว่าแขนกับขามันมีบทบาทที่แตกต่างกัน เงินกับความรักมันก็มีบทบาทของมันเอง ดังนั้น เงินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในบทบาทของมัน และไม่มีความสำคัญเลยในบทบาทที่ไม่ใช่บทบาทของมัน ความรักอาจจะทำให้โลกทั้งใบสดใส แต่เราเอามันไปจ่ายเป็นค่าอาหารไม่ได้ เอามันไปจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ได้ เอามันไปจ่ายค่ารถเมล์ก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างมันต้องใช้เงิน ถ้ามีใครบอกคุณว่าเงินไม่สำคัญให้เดาได้เลยว่าคนที่พูดคำนี้กำลังถังแตก ให้ระวังประโยคหลังจากนั้นให้ดี

Victim Clue 3: Complaining บ่นเก่ง การบ่นเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องใดก็ตาม เหตุผลก็เพราะว่าในขณะที่เราบ่นสิ่งที่เราโฟกัสคือเรื่องแย่ ๆ ทั้งนั้น สังเกตง่าย ๆ เราบ่นเรื่องไหนเรามักจะเจอกับเรื่องนั้น ยิ่งบ่นบ่อยแค่ไหนยิ่งเจอบ่อยแค่นั้น นั่นเพราะจิตใจเราเสพติดการบ่น เราเลยคอยสอดส่องมองหาแต่เรื่องแย่ ๆ เพื่อที่จะบ่น และคนเหล่านี้ก็จะบอกว่าชีวิตเขาเจอแต่เรื่องแย่ ๆ

โทษคนอื่น แก้ตัว ขี้บ่น สามสิ่งนี้เป็นเหมือนยาเม็ดสำหรับบรรเทาความเครียดอันเกิดมาจากความล้มเหลวในชีวิตเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในโลกนี้ไม่มีเหยื่อที่ร่ำรวยมั่งคั่ง รางวัลของเหยื่อผู้ประสบเคราะห์กรรมลำบากมีเพียงอย่างเดียวคือ ความสงสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน

ดังนั้นจงเชื่อมั่นว่าตัวเรา เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราเอง ตัวเราเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของเราเอง เหมือนดังคำกล่าวของ Bill Gates ที่ว่า